ยูโรปาลีกเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่มีขั้นตอนซับซ้อนที่สุดรายการหนึ่งของโลก และมีการเปลี่ยนแปลงกติกาใหม่ทุกๆ 3 ปี โดยกติกาที่ใช้ในปัจจุบันจะสิ้นสุดในปีนี้ (ค.ศ. 2020) มีสโมสรที่ได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 214 ทีม จาก 55 ประเทศ ซึ่งประเทศชั้นนำได้โควตาเข้าร่วมเกม 3 ทีม ประเทศระดับรองได้ 2 ทีม และประเทศกลุ่มสุดท้ายได้สิทธิ 1 ทีม
มีการคัดเลือกหลายรอบ
ลำดับขั้นตอนการแข่งขันเริ่มจากรอบชิงเข้าสู่รอบคัดเลือก (Preliminary round) มีสโมสรเข้าร่วมการแข่งขันในระบบเหย้า-เยือน 16 ทีม ตามด้วยรอบคัดเลือกรอบแรก (First qualifying round) จำนวน 94 ทีม รอบคัดเลือกรอบสอง 74 ทีม รอบคัดเลือกรอบสาม 52 ทีม รอบเพลย์ออฟ (Play-off round) 26 ทีม รอบแบ่งกลุ่ม (Group stage) 48 ทีม และรอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งเรียกว่ารอบแพ้คัดออก (Knockout phase)
จำนวนทีมที่ผ่านเข้ารอบในแต่ละรอบจะตรงกับระบบมาตรฐานทั่วไป คือคัดทีมแพ้ออกครึ่งหนึ่ง เช่น จำนวนทีมที่ผ่านรอบคัดเลือกรอบแรก เข้าสู่รอบคัดเลือกรอบสองมี 47 ทีม เป็นต้น
แต่สาเหตุที่จำนวนทีมในแต่ละรอบไม่เป็นไปตามระบบคัดทีมแพ้ออกครึ่งหนึ่ง เนื่องจากมีทีมเพิ่มเข้ามาจากที่ตกรอบในแชมเปียนส์ลีก บวกกับทีมจากประเทศต่างๆ ที่ได้สิทธิเข้าแข่งในแต่ละรอบ กล่าวคือ หลายทีมได้สิทธิลงแข่งรอบคัดเลือกรอบสามทันที โดยไม่ต้องแข่งรอบคัดเลือกรอบแรกและรอบสอง ขณะที่หลายสโมสรได้สิทธิลงแข่งรอบแบ่งกลุ่มทันที โดยไม่ต้องแข่งรอบก่อนหน้านี้
ทีเด็ดเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่ม
ในส่วนของแฟนบอลที่ติดตามลุ้นการแข่งขันรายการนี้ ส่วนใหญ่มักจะเริ่มติดตามตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเป็นต้นไป เนื่องจากมีทีมชั้นนำเข้าร่วมมากกว่ารอบก่อนหน้านี้ อีกทั้งเป็นรอบที่เรียกว่า “ของจริง” เพราะแต่ละทีมล้วนมีความมุ่งมั่นที่จะได้สิทธิผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย