ในการแข่งขันฟุตบอลยูโรป้า ลีกนั้น ด้วยความที่เป็นการแข่งขันในระดับทวีป แต่เป็นการแข่งขันที่รองลงมาจากรายการใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ทำให้ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดยเฉพาะในรอบแรก ๆ นั้น เป็นทีมที่มาจากลีกในประเทศที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็นับว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศนั้น ๆ แต่อาจจะมีศักยภาพเทียบเท่ากับทีมระดับกลางของลีกใหญ่ ๆ ดังนั้นด้วยบรรยากาศการแข่งขัน ในรายการระดับทวีป บวกกับการที่คู่ต่อสู้อยู่ในระดับที่ไม่แข็งแกร่งมาก จึงเป็นเวทีที่เหมาะแก่การให้ดาวรุ่งลงไปแจ้งเกิดอย่างยิ่ง
ด้วยบรรยากาศที่เหมาะแก่การเสริมกระดูกให้แก่ดาวรุ่ง บรรดาทีมใหญ่ ๆ จึงมักจะให้โอกาสดาวรุ่งในทีมได้ลงสนาม ไม่ว่าจะเพื่อเสริมกระดูก ปล่อยของ หรือเพื่อการโรเตชั่น จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ มันคือสาเหตุให้รายการนี้ เป็นเวทีแจ้งเกิดของผู้เล่นหน้าใหม่ ฝีเท้าดีมากมายหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ ดาวรุ่งพรสวรรค์จากค่ายคืนใหญ่ อาร์เซน่อล อย่าง บูกาโย ซาก้า
ทีมปืนใหญ่อาร์เซน่อล มีชื่อเสียงอยู่แล้วในเรื่องของการให้โอกาสผู้เล่นดาวรุ่ง นับตั้งแต่สมัยของผู้จัดการทีมคนก่อน อย่างอาร์แซน เวนเกอร์ และนักเตะที่เป็นสไตล์ที่เวนเกอร์โปรดปรานก็คือ ผู้เล่นแนวสปีดมอนสเตอร์ คือมีความเร็วจัดจ้าน เทคนิคแพรวพราว และดูเหมือนว่าสไตล์นี้จะถูกส่งต่อมาถึง ลูกศิษย์ก้นกุฏิของเขาอย่าง เฟดริก ลุงจ์เบิร์ก ทำให้เขาผลักดันเจ้าหนูบูกาโย่ ซาก้า ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
เจ้าหนูสัญชาติอังกฤษคนนี้ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2001 นั่นเท่ากับว่าเขาพึ่งมีอายุเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง แต่ฤดูกาลนี้ เขาลงสนามให้กับทีมปืนใหญ่ ไปแล้วถึง 29 เกม ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนกุนซือจากลุงจ์เบิร์กมาเป็นอาร์เตต้าแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในรายการยูโรป้า ลีกนั้น เขามีฟอร์มการเล่นที่ดีอย่างมากเลยทีเดียว โดยฤดูกาลนี้เขาลงสนามไป 6 นัด กับผลงาน 2 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ การมีส่วนช่วยทีมได้ประตูถึง 7 ลูกจาก 6 นัด นับว่าเป็นฟอร์มที่ไม่ธรรมดาเลย สำหรับผู้เล่นอายุน้อยคนหนึ่ง
นอกเหนือจากการช่วยทีมได้ประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำแล้ว การได้ลงเล่นในรายการนี้ของซาก้า ยังมีประโยชน์ในด้านการพัฒนาฝีเท้าของเขาเองอย่างมาก ซึ่งมันเห็นได้ชัดจากฟอร์มในสนามของเขา ที่ดูจะเล่นได้อย่างมีความมั่นใจเกินอายุ ถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ร่วมลีกเขาก็สามารถทำผลงานในสนามได้ดี และด้วยอายุเพียงแค่นี้ต้องบอกเลยว่า เขายังสามารถพัฒนาฝีเท้าตัวเองไปได้อีกไกล
ด้วยฟอร์มการเล่น และคุณสมบัติทุก ๆ อย่างที่เขามี ไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าเขาเกิดในยุคของเวนเกอร์ เราคงมีหวังจะได้เห็นผู้เล่นระดับโลกคนใหม่อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาจนถึงลุงจ์เบิร์ก หรืออาร์เตตาร์ในปัจจุบัน ก็นับว่าเป็นศิษย์เก่าที่มีทิศทางการทำงานในลักษณะเดียวกันกับเวนเกอร์ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นรับรองได้ในระดับหนึ่งเลยว่า เจ้าหนูซาก้า จะได้รับโอกาส และได้รับการขัดเกลาอย่างดีแน่นอน
เครดิตภาพ : https://www.arsenal.com/news/saka-how-left-back-will-improve-me-winger